Home บทความแนะนำ กลยุทธ์ O2O Marketing คืออะไร

กลยุทธ์ O2O Marketing คืออะไร

by talkthurakit

O2O Marketing

กลยุทธ์ O2O Marketing คืออะไร เพราะปัจจุบันการตลาดแบบออนไลน์และออฟไลน์ยังคงผสมฮิตติดตลาด ดังนั้นทั้งหมดล้วนมีความเชื่อมโยงกัน และก็มีข้อแตกต่างกันไปด้วย และก็มีข้อดีและข้อด้อยต่างกันไป ดังนั้น O2O Marketing จะมีบทบาทสำคัญอย่างไร ตามมาพร้อม ๆ กับทอล์คธุรกิจกันเลยค่ะ

O2O Marketing คืออะไร

(Online-to-Offline) O2O Marketing คือ การผสมผสานระหว่างการตลาดแบบออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ เป็นการนำคุณสมบัติเด่นของการตลาดทั้งสองรูปแบบมาคอยเติมเต็มซึ่งกันและกัน เป็นโมเดลที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ทั่วโลก

O2O Marketing มีแพลตฟอร์มอะไรบ้าง

แพลตฟอร์ม O2O คือ ช่องทางหรือพื้นที่ในการทำมีด้วยกันมากมาย เป็นแพลตฟอร์มออนไลน์ทั้งหมดสามารถนำมาปรับใช้กับกลยุทธ์ O2O ได้ ว่าเหมาะกับการทำการตลาดรูปแบบไหน และมีกลุ่มลูกค้าหรือกลุ่มเป้าหมายแบบใดในแต่ละแพลตฟอร์ม ร้านค้าหรือแบรนด์ควรที่จะเลือกช่องทางที่เหมาะสมกับสินค้าหรือบริการของตนเอง เพื่อให้แพลตฟอร์มเหล่านี้ก่อประสิทธิภาพต่อการทำกลยุทธ์ O2O มากที่สุด

กลยุทธ์การตลาดของ O2O Marketing มีอะไรบ้าง

  1. BOPIS (Buy online, pickup in store) หรือการซื้อแบบออนไลน์แล้วรับของที่ร้านค้า เป็นกลยุทธ์ที่จะช่วยผลักดันให้ผู้ซื้อของออนไลน์เหล่านั้นกลับมาซื้อที่หน้าร้านจริง ๆ
  2. Local SEO มีผู้คนกว่า 50% ที่ใช้ Google ในการค้นหาร้านค้าหรือร้านอาหารในบริเวณที่ตนเองอยู่ หรือตั้งใจว่าจะเดินทางไปบริเวณนั้น
  3. QR Codes สำหรับการที่ลูกค้าเข้าไปซื้อของที่หน้าร้านมีลูกค้าถึง 55% ใช้สมาร์ทโฟนในการเข้าเว็บไซต์เพื่อหาข้อมูลของสินค้าหรือเปรียบเทียบราคา และตรวจสอบโปรโมชั่นหรือสิทธิพิเศษต่าง ๆ ดังนั้นการวาง QR Code ในจุดที่ลูกค้าพบเห็นได้ง่ายก็จะช่วยเพิ่มช่องทางการเข้าถึงหน้าร้านและสินค้าแบบออนไลน์

ประโยชน์ของการทำ O2O Marketing มีอะไรบ้าง

  1. ให้ในสิ่งที่นักช้อปต้องการ ผู้บริโภคสมัยใหม่มีความเข้าใจว่ามีร้านค้าหลายร้านให้เลือกจับจ่าย เมื่อคุณไม่สามารถตอบโจทย์ในความต้องการของลูกค้าได้ ลูกค้าก็อาจจะไปอุดหนุนคู่แข่งของคุณแทน การทำ O2O จึงทำให้ลูกค้าจึงมีโอกาสที่จะได้รับคำแนะนำหรือโน้มน้าวได้โดยพนักงานขาย และสามารถสัมผัสสินค้าได้ด้วยตนเอง
  2. เข้าถึงลูกค้าได้มากขึ้น สามารถทำให้ธุรกิจค้าปลีกสามารถเข้าถึงลูกค้าได้มากกว่าเดิม โดยเหล่าร้านค้าสามารถใช้ช่องทางออนไลน์ในการทำการตลาดได้อย่างมีประสิทธิภาพเพิ่มมากขึ้น
  3. การรับรู้ถึงแบรนด์ การซื้อของแบบออนไลน์ทำให้ลูกค้าไม่ได้มีพฤติกรรมการเลือกซื้อแบบเดิมที่มักเป็นเส้นตรง แต่มีการแวะไปยังที่ต่าง ๆ ก่อนการตัดสินใจ
  4. ประหยัดต้นทุนค่าขนส่ง การทำ O2O Marketing โดยเฉพาะการซื้อแบบออนไลน์และรับสินค้าที่หน้าร้าน จะช่วยให้ร้านค้าลดต้นทุนในการส่งสินค้า เป็นต้น

O2O Marketing เป็นการผสมผสานระหว่างการตลาดแบบออนไลน์ไปสู่ออฟไลน์ โดยการนำคุณสมบัติเด่นของการตลาดทั้งสองรูปแบบมาคอยเติมเต็มซึ่งกันและกัน เป็นโมเดลที่กำลังได้รับความนิยมอยู่ทั่วโลก

บทความมากมายใน เกมส์บันเทิง

Leave a Comment