เพราะบาร์โค้ด (Barcode) คือ รหัสที่ใช้แทนตัวเลขและตัวอักษร เป็นเส้นตรงสีขาวดำที่เรียงสลับกันเป็นแถบ หนาบางแตกต่างกัน มักปรากฏอยู่บนสินค้า เมื่อซื้อสินค้าก็ต้องสแกนโค้ดนี้ เพื่อให้สามารถคิดเงินได้ และบทความนี้จะมานำเสนอว่า Barcode มีประโยชน์อย่างไรกับธุรกิจ มาดูกันเลย
บาร์โค้ด (Barcode) คืออะไร
หากได้แปลเป็นภาษาไทยคือ รหัสแท่ง เป็นรหัสที่ใช้แทนตัวเลขและตัวอักษร ที่ได้รับการคิดค้นขึ้นมาเพื่อให้เครื่องคอมพิวเตอร์สามารถอ่านข้อมูลได้ง่ายขึ้น โดยใช้การสแกนด้วยเครื่องอ่าน แน่นอนว่าวิธีนี้ช่วยลดความผิดพลาดในการบันทึกข้อมูล และก็มีประโยชน์ในการค้าขาย โดยสินค้าจะมีการตั้งรหัสไว้และพิมพ์ออกมาเป็นบาร์โค้ดที่แพ็คเกจ เพื่อให้บันทึกรายการสินค้า และปัจจุบันยังใช้เก็บบันทึกข้อมูลส่วนบุคคลได้ด้วย เช่น ข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ป่วยในโรงพยาบาล
การพิมพ์บาร์โค้ด (Barcode)
ปัจจุบันมีโปรแกรมพิมพ์ให้เลือกหลากหลาย ทั้งยังมีแบบให้ดาวน์โหลดฟรี หรือจะทำในโปรแกรมพื้นฐานอย่าง Microsoft Excel โดยนำข้อมูลไปกรอกบนโปรแกรม เพื่อสร้างเป็นบาร์โค้ด แล้วจึงพิมพ์ออกมาในรูปแบบของฉลาก สติ๊กเกอร์หรือบนแพ็คเกจสินค้า
บาร์โค้ด (Barcode) มี 3 ประเภท
1 มิติ (Barcode 1D) ที่เรานั้นได้คุ้นตาของคนทั่วไปมากที่สุด เพราะเป็นที่พบเห็นได้ตามแพ็คเกจสินค้าทั่วไป มีลักษณะเป็นเส้นสีดำสลับกับเส้นสีขาวเรียงขนานกัน โดยแต่ละเส้นมีความหนาบางไม่เท่ากัน ใช้แทนรหัสตัวเลขหรือตัวอักษร บรรจุข้อมูลได้ประมาณ 20 ตัวอักษร มักใช้คู่กับเครื่องอ่าน
2 มิติ (Barcode 2D) ที่ได้รับการพัฒนาจาก 1 มิติ ทั้งเส้นแนวนอนและแนวตั้ง ทำให้บรรจุข้อมูลตัวอักษรได้ประมาณ 4,000 ตัวอักษร เหมาะแก่การบันทึกข้อมูล URL ที่มักยาวและจำยาก 2 มิติที่คุ้นเคยคือ QR Code สามารถใช้ทั้งเครื่องอ่าน เครื่องอ่านแบบซีซีดี ไปจนถึงกล้องโทรศัพท์มือถือที่ติดตั้งแอพพลิเคชั่นถอดรหัสเอาไว้
3 มิติ (Barcode 3D) เป็นการพัฒนาล่าสุด โดยจะสลักหรือยิงเลเซอร์ฝังบาร์โค้ดลงไปบนเนื้อวัตถุโดยตรง ทำให้มีความนูนสูงหรือนูนต่ำ แต่มักพบในเครื่องมือแพทย์ เป็นเครื่องมือเกี่ยวกับยานยนต์ หรือแผงวงจรอิเล็กทรอนิกส์
ประโยชน์บาร์โค้ดต่อธุรกิจ
1. ช่วยให้การบันทึกข้อมูลไม่เกิดความผิดพลาด มีความถูกต้อง และแม่นยำ
2. รวดเร็วที่สามารถรู้ราคาสินค้าได้ทันที
3. เป็นการเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน
4. เป็นการช่วยพัฒนาธุรกิจการส่งออก เนื่องจากจะมีรหัสของแต่ละประเทศอยู่ ทำให้ทราบแหล่งผลิต และสามารถติดต่อซื้อขายกันได้โดยตรง
5. ในยุคปัจจุบันลูกค้าสามารถชำระเงินผ่านบาร์โค้ด ที่มาสร้างความสะดวกสบายให้ทั้งผู้ซื้อ และผู้ขายอย่างมาก ที่สามารถใช้มือถือสแกนเพื่อชำระเงินได้เลย ไม่ต้องมีปัญหาเรื่องเงินทอน หรือไปกดเงินจาก ATM ให้เสียเวลา ซึ่งเป็นอีกก้าวหนึ่งของสังคมไร้เงินสด (Cashless Society) นั่นเอง บทความจาก หวานล็อตโต้
