Home บทความแนะนำ แนวคิดและปรัชญาขงจื่อ

แนวคิดและปรัชญาขงจื่อ

by talkthurakit
ขงจื่อ

ขงจื่อจึงเป็นบุคคลที่มีชื่อเสียงโดดเด่นทางด้านวัฒนธรรมของโลก ปรัชญาของขงจื่อจึงกลายเป็นมรดกทางวัฒนธรรมอันล้ำค่าของมวลมนุษยชาติ ดังนั้นบทความนี้จะมาเสนอแนวคิดและปรัชญาของขงจื่อจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญและลึกซึ้งจนถึงปัจจุบัน จะเป็นอย่างไร มาอ่านกันเลย

แนวคิดและปรัชญาขงจื่อในด้านต่าง ๆ 

ขงจื่อ

ความคิดทางจริยธรรม เพื่อสร้างความเป็นระเบียบเรียบร้อย และให้เกิดความกลมเกลียวในสังคม เขาจึงใช้หลักเมตตากรุณา เป็นจริยศาสตร์ที่สมบูรณ์ในการสร้างความเป็นระเบียบของสังคม

ปรัชญาความคิด รูปแบบระบบปรัชญาความคิดของคนคือ การยึดเอาความเมตตาเป็นสัญลักษณ์

ความจงรักภักดี เป็นคนที่มีความซื่อสัตย์ มีความรับผิดชอบ พยายามทำงานที่ได้รับมอบหมายให้ถึงที่สุด และยังรวมไปถึงการแสดงความจงรักภักดีต่อกษัตริย์ ขงจื่อจึงเสนอข้อคิดเห็นว่า “ข้าราชบริพารที่ได้รับการแต่งตั้งจากพระมหากษัตริย์ต้องปฏิบัติตามบรรทัดฐานของประเพณี ข้าราชบริพารรับใช้พระมหากษัตริย์ด้วยความจงรักภักดี” ต้องป้องกันไม่ให้เกิดข้อผิดพลาดต่อพระมหากษัตริย์ กำจัดและโค่นล้มทรราช ซึ่งแตกต่างกับคนรุ่นหลังที่ว่า “ขุนนางจะต้องฟังคำสั่งของพระมหากษัตริย์” เป็นอย่างมาก

ขงจื่อ

ความกตัญญู ความกตัญญูเป็นความสัมพันธ์ของมนุษย์ด้านศีลธรรมจรรยา และเป็นศีลธรรมทางการเมือง หลังเข้าสู่สังคมศักดินา บทบาทสำคัญของกตัญญูคือมนุษย์ต้องมีศีลธรรมจรรยา ขงจื่อกล่าวว่ากตัญญูไม่เพียงเริ่มจากการเคารพปฏิบัติตามคำสั่งสอนของพ่อแม่ และยังต้องพูด ทำ และรับคำตักเตือนในสิ่งที่ทำผิดต่อพ่อแม่

ความน่าเชื่อถือ ก็คือการซื่อสัตย์ไม่หลอกลวง มันไม่เพียงเป็นหลักในการคบหาเพื่อน และยังเป็นศีลธรรมในการปกครองประเทศ คนที่ซื่อตรงจำเป็นต้องมีจิตใจที่ซื่อสัตย์ คำพูดจะต้องมีความน่าเชื่อถือ แต่การรักษาความน่าเชื่อถือจะต้องมีหลักการ และปฏิบัติควบคู่ไปกับศีลธรรมและสัจธรรม

ความยุติธรรม ความยุติธรรมเป็นบรรทัดฐานของศีลธรรม ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งในการดำเนินชีวิตของผู้คนในสังคม  ผู้คนยึดความยุติธรรมเป็นศูนย์กลาง เพียงเริ่มจากความยุติธรรม กล้าหาญทำเรื่องที่มีความยุติธรรม แต่ขงจื่อไม่ได้นำความยุติธรรมและผลประโยชน์แยกออกจากกันแต่ขอร้องให้ผู้คน เมื่อได้รับผลประโยชน์ก็ต้องคำนึงถึงความยุติธรรมก่อน

ขงจื่อ

การให้อภัย คือการเอาใจเขามาใส่ใจเรา เมื่ออยู่ในสังคมจะต้องรู้จักเข้าสังคม สิ่งที่คิดว่าตนเองทำได้ บุคคลอื่นก็ทำได้ เรื่องที่ตนเองทำไม่ได้ก็ไม่ต้องโยนให้กับบุคคลอื่นทำ

การให้ ขงจื่อส่งเสริมให้มีการให้ การปกครองประเทศควรมีจิตใจที่มีความอ่อนน้อมถ่อมตน มีความอ่อนโยน มีจิตใจที่ดีงาม มีความเคารพประหยัด และมีความอดทน ควรสอนให้ผู้คนรู้ว่าเมื่อมีชื่อเสียง มีอำนาจควรพิจารณาถึงผู้อื่นก่อนแล้วค่อยคิดถึงตัวเอง เมื่ออยู่ในหน้าที่ก็ควรปฏิบัติตามกฎหมายของประชาชน และควรพิจารณาตัวเองก่อนแล้วค่อยคิดถึงคนอื่น

ความเชื่อ ประกอบด้วย 2 ด้านคือ ตนเองต้องมีลักษณะอากัปกิริยาที่เอาจริงเอาจังเคร่งขรึม และถ่อมตนยอมรับฟังความคิดเห็นของคนอื่น และคล้อยตามไปกับผู้อื่น ซึ่งเป็นหนึ่งในจริยธรรมและศีลธรรมที่ขงจื่อพยายามส่งเสริมเป็นอย่างมาก รวมถึง ความอบอุ่น ความดี และประหยัดมัธยัสถ์ ซึ่งคนรุ่นหลังเรียกว่า “ศีลธรรมทั้งห้า”

ความเคารพ ประกอบด้วย 2 ด้านคือ จริงจังตั้งใจกับการงานและกิจการที่ทำ และปฏิบัติต่อผู้อื่นด้วยความจริงใจ ทำอะไรต้องตั้งใจ เคารพความคิดของผู้อื่น ซึ่งเป็นทฤษฎีทางศีลธรรมที่เก่าแก่ที่สุดของประเทศจีน การเคารพพ่อแม่ เคารพผู้อาวุโส เคารพเพื่อน ซึ่งสิ่งเหล่านี้เป็นหลักที่ผู้คนจะต้องปฏิบัติตาม

ความคิดทางการศึกษา ความคิดที่จะปกครองด้วยคุณธรรมจะเป็นจริงได้นั้น จะต้องปลูกฝังให้คนที่มีความรู้ความสามารถทางการเมือง มีความเพียบพร้อมด้านศีลธรรม ขงจื่อจึงริเริ่มการเรียนการสอนโดยไม่มีแบบแผน และริเริ่มสร้างโรงเรียนของตนเองก่อน ซึ่งในชีวิตของท่านได้สอนคนอย่างไม่รู้จักเบื่อหน่าย สะสมประสบการณ์ในการสอน และยังสร้างวิธีการ รูปแบบการเรียนการสอนทางวิทยาศาสตร์ ซึ่งก่อให้มีความคิดทางการศึกษาที่สมบูรณ์

จุดมุ่งหมายของการศึกษา ขงจื่อเสนอการปกครองที่มีศีลธรรม ดังนั้นจึงสร้างโรงเรียนของเขาขึ้นมา เพื่อดำเนินการฝึกอบรมผู้ที่มีความรู้ความสามารถทางการเมืองให้ปกครองประเทศด้วยศีลธรรม เมื่อผ่านการฝึกอบรมแล้วเหล่าบรรดาขุนนางได้นำสิ่งที่ขงจื่อได้สอนคือ “มีความจงรักภักดีต่อพระมหากษัตริย์ มีความเมตตาต่อประชาชน”

ขงจื่อ

เนื้อหาการศึกษา ขงจื่อฝึกและอบรมผู้ที่มีความสามารถให้ปกครองประเทศด้วยศีลธรรม ให้ความสำคัญกับคุณสมบัติประจำตัวของแต่ละคนและมีความสามารถในการปกครองประเทศ การเรียนการสอนโดยยึดศีลธรรมเป็นสิ่งสำคัญซึ่งจะครอบคลุมไปด้วย ศีลธรรม สติปัญญา ร่างกาย ดนตรี และคุณธรรมอันดี

วิธีการศึกษา ขงจื่อสอนนักเรียนตามความสามารถของนักเรียน การเรียนหนังสือเป็นการเพิ่มพูนความรู้ให้แก่กันและกันทั้งสองฝ่าย ทั้งนักเรียนและครูผู้สอน ค่อย ๆ โน้มน้าวให้การศึกษาเป็นไปตามลำดับขั้นตอน รู้เรื่องหนึ่งก็สามารถนำไปเชื่อมโยงถึงเรื่องอื่น ๆ อีกหลายเรื่องได้ เวลาที่นักเรียนต้องการที่จะพูดแต่ไม่สามารถพูดออกมาได้ เขาจึงคิดวิธีการสอนให้เชื่อมโยงกับวิทยาศาสตร์และรูปแบบการสอนที่สามารถยืดหยุ่นได้

วิธีการเรียน ขงจื่อมีความกระตือรือร้นและชอบที่จะหาความรู้เป็นอย่างมาก แม้ว่าขงจื่อจะไม่มีอาจารย์สอนหนังสือ แต่ขงจื่อก็มีความรู้ความสามารถ ชาญฉลาด และมีความมุ่งมานะเพื่อหาความรู้เป็นอย่างมากจนกระทั้งลืมทานข้าว ขงจื่อมักจะแก้ไขปัญหาทุกเรื่อง ทบทวนความรู้เก่าเพื่อที่จะได้ความรู้ใหม่ นำความรู้ที่เรียนและความคิดของตนเองมาประยุกต์ใช้ร่วมกัน และเป็นผู้ที่รู้เรื่องหนึ่งก็สามารถรู้ทะลุปรุโปร่งไปถึงเรื่องอื่นอีกมากมายหลายเรื่อง บทความจาก ล็อตโต้สด Lottosod888 ฝาก-ถอนออโต้ไม่มีขั้นต่ำ

Leave a Comment