มารู้จักความหมายและประเภทของการค้าปลีกกันเถอะ ที่เราทุกคนนั้นล้วนเจอกันอยู่เสมอ ๆ เพราะเป็นการขายสินค้าให้กับผู้บริโภค โดยไม่นำไปขายต่อจึงนับเป็นผู้บริโภคคนสุดท้าย ด้วยเหตุนี้ทำให้ผู้บริโภคที่ซื้อสินค้าแบบการค้าปลีกไม่จำเป็นต้องซื้อเพียงไม่กี่ชิ้นเสมอไป แต่สามารถซื้อจำนวนมากได้ ทอล์คธุรกิจ
การค้าปลีกมีความหมายว่าอะไร
การค้าปลีกเป็นการขายสินค้าและบริการให้กับผู้บริโภคคนสุดท้าย (Final Consumers) ที่สามารถแบ่งได้เป็น 2 ประเภทใหญ่ ๆ คือ การค้าปลีกที่ต้องอาศัยหน้าร้าน (Store Retailing) และที่ไม่ต้องอาศัยหน้าร้าน (Non-store Retailing)
ประเภทของการค้าปลีก
ประเภทร้านค้าการค้าปลีกที่ปรากฏอยู่ในประเทศไทย ปัจจุบันจะพบร้านค้าปลีกหลายประเภททั้งแบบดั้งเดิมและแบบทันสมัย ดังนี้
1. Small Retailer (ร้านค้าปลีกขนาดเล็ก) หรือร้านโชห่วย โดยมีรูปแบบร้านค้าการค้าปลีกแบบดั้งเดิม ใช้พื้นที่น้อย ซึ่งขายสินค้าที่จำเป็นในชีวิตประจำวัน ไม่มีการพัฒนารูปแบบการจัดการ การจัดหาสินค้าโดยการซื้อจากหน่วยรถเงินสดหรือจากร้านค้าส่ง ถึงแม้ความนิยมของผู้บริโภคต่อร้านค้าประเภทนี้จะลดน้อยลง แต่ก็ยังปรากฏมีร้านค้ากระจายอยู่ตามพื้นที่ต่าง ๆ ของประเทศอีกเป็นจำนวนมาก
2. Specialty Store (ร้านค้าปลีกเฉพาะอย่าง) เป็นร้านที่เน้นขายสินค้าเฉพาะอย่าง เช่น ร้านดอกไม้ ร้านเครื่องเขียน ร้านขายอุปกรณ์กีฬา ร้านขายปืน ร้านค้าวัสดุก่อสร้าง เป็นต้น
3. Department Store (ห้างสรรพสินค้า) ห้างเซ็นทรัล โรบินสัน เดอะมอลล์ เมื่อได้ยกตัวอย่างก็จะสามารถรู้ทันทีเลยว่าเป็นร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ ตกแต่งหรูหราให้บริการครบครัน ขายสินค้าครบทุกประเภทโดยจัดแบ่งเป็นแผนกและหมวดหมู่ของสินค้าอย่างชัดเจน
4. Supermarket (ซุปเปอร์มาร์เก็ต) การจำหน่ายสินค้าที่จำเป็นประกอบด้วยสินค้าประเภทอาหารและของใช้จำเป็นในครัวเรือน ส่วนใหญ่เป็นสินค้าที่มีกำไรต่ำ จึงต้องบริหารอย่างรัดกุมลดความสูญเสีย ใช้พื้นที่ไม่มาก มักจะเลือกทำเลที่ใกล้เคียงกับที่อยู่อาศัย เช่น ท็อปส์ซุปเปอร์มาร์เก็ต
5. Convenience Store (ร้านค้าสะดวกซื้อ) สำหรับร้านสะดวกซื้อเป็นร้านค้าปลีกสมัยใหม่ เน้นความสะดวกทั้งด้านทำเลที่ตั้ง มีสาขาจำนวนมากและเปิดบริการตลอด 24 ชั่วโมงสินค้าที่ขายเน้นประเภทอาหาร เครื่องดื่ม สินค้าอุปโภคบริโภค สนองความต้องการซื้อแบบเร่งด่วน เช่น ร้าน 7-ELEVEN ร้าน Family Mart เป็นต้น
6. Discount Store (ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่) ห้าง ที่เราเรียกสั้น ๆ ขายสินค้าครบทุกประเภทใช้นโยบายราคาถูกทุกวัน (Everday Low Price) เช่น Tesco Lotus, Big-C, Makroหวังยอดขายในปริมาณสูง กำไรต่อหน่วยต่ำ ไม่เน้นบริการและความหรูหรา ถึงแม้การลงทุนสูง แต่เป็นประเภทร้านค้าปลีกที่กำลังได้รับความนิยมและมีอัตราการเติบโตสูงสุดในปัจจุบัน
7. Category Killer (ร้านค้าปลีกขนาดใหญ่ที่เน้นขายสินค้าเฉพาะกลุ่ม) เป็นสถานที่ขายเครื่องใช้สำนักงานวัสดุอุปกรณ์เกี่ยวกับบ้านตกแต่งและสวน และเครื่องใช้ไฟฟ้า อุปกรณ์กีฬา อาศัยความชำนาญ เช่น HomePro, ไทวัสดุ
ติดตามบทความมากมายใน แวดวงบันเทิง
