การเขียนเชิงธุรกิจ
การเขียนเชิงธุรกิจเป็นพื้นที่ที่กว้างและซับซ้อนมาก การเขียนเพื่อโลกธุรกิจมีการเปลี่ยนแปลงและดำเนินต่อไปในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ด้วยเหตุนี้การเขียนเชิงธุรกิจจึงเป็นการสื่อสารของบริษัท และหน่วยงานได้รับรายงานข้อเสนอ อีเมลและเอกสารอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจเป็นงานเขียนเชิงธุรกิจทุกรูปแบบวัตถุประสงค์ของการเขียนเชิงธุรกิจคือการทำธุรกรรม แน่นอนว่าเนื้อหาของการเขียนทางธุรกิจเกี่ยวข้องกับหน่วยงานธุรกิจ แต่ยังเกี่ยวข้องกับธุรกรรมที่เฉพาะเจาะจงและมีจุดมุ่งหมายทักษะการเขียนเชิงธุรกิจจึงมีความหลากหลายและหลากหลายมากขึ้นกว่าที่เคย
การเขียนเชิงธุรกิจ คืออะไร
การเขียนเชิงธุรกิจเป็นอาชีพที่มีทักษะหลากหลาย ต้องใช้ความสามารถในการค้นหา วิเคราะห์ และนำเสนอข้อมูลแก่ผู้ชมในแบบที่ทำให้พวกเขาเข้าใจสิ่งที่พวกเขาได้รับจากคุณ
การเขียนเชิงธุรกิจเป็นหนึ่งในงานที่สำคัญที่สุดสำหรับ CEO เหตุผลหนึ่งสำหรับเรื่องนี้ก็คือ มันยากมากที่จะงสามารถโน้มน้าวใจลูกค้าได้ให้ซื้อสินคเาและบริการได้ ไม่ใช่แค่คำพูดแต่ต้องแสดงถึงการเขียนเชิงธุรกิจ ว่าในแต่ละวันต้องทำอย่างไรบ้าง และจุดมุ่งหมายของแต่ละวันและแพลนงานที่ต้องทำต่อไปทั้งในระยะสั้น ระยะกลาง และระยะยาว โดยรวมข้อมูลพร้อทกับวิเคราะห์ความเป็นไปได้ของแผนงานและปัญหาที่จะพบเจอในอนาคนว่าต้องรับมือเมื่อเกิดเหตุการณ์แบบนี้ในอนาคตเพื่อให้ทุกคนมีความรูและความพร้อมสำหรับนำไปรับมือกับสถานการ์เหล่านี้ได้
เคล็ดลับการเขียนเชิงธุรกิจ
1. ใส่ประเด็นหลักของคุณก่อน ระบุสาเหตุที่คุณเขียนจดหมายล่วงหน้า ข้อยกเว้นประการหนึ่งของกฎนี้คือสำหรับจดหมายขาย การเตือนผู้รับการประชุมที่ผ่านมาหรือการเชื่อมต่อทั่วไปที่คุณแบ่งปันเป็นวิธีที่ยอมรับได้ในการเปิดเนื่องจากอาจส่งผลให้ผู้รับตอบสนองต่อจุดมุ่งหมายที่คุณตั้งใจไว้ได้มากขึ้น
2. รู้จักผู้ชมของคุณ เว้นแต่จะมุ่งเป้าไปที่ผู้ชมเฉพาะอุตสาหกรรมอย่าเติมคำศัพท์ทางเทคนิคจำนวนมากในงานเขียนของคุณ (สามารถแนบเฉพาะแยกต่างหากได้) ปรับโทนเสียงของคุณให้เหมาะกับผู้อ่านที่ต้องการ ตัวอย่างเช่นจดหมายร้องเรียนจะมีน้ำเสียงที่แตกต่างจากจดหมายอ้างอิง ในที่สุดสิ่งนี้ควรดำเนินไปโดยไม่พูด
3. ใช้การหดตัวเมื่อทำได้ การเขียนเชิงธุรกิจได้เปลี่ยนจากรูปแบบที่เป็นทางการไปสู่รูปแบบที่สามารถเข้าถึงได้มากขึ้น คือหนทางที่จะไป ดังนั้นแม้คุณไม่ได้มักจะต้องใช้การหดตัว หลักการง่ายๆคือถ้าการหดตัวช่วยเพิ่มการไหลของประโยคให้ใช้มัน ถ้าประโยคนั้นโน้มน้าวใจได้มากขึ้นโดยไม่ใช้มันให้ใช้สองคำ
4. ใช้คำกริยาที่ใช้งานอยู่แทนที่จะใช้คำกริยาแฝง คำกริยาที่ใช้งานได้ช่วยให้ผู้อ่านเข้าใจได้อย่างรวดเร็วและเข้าใจได้อย่างสมบูรณ์มากขึ้น ตัวอย่างเช่น การตัดสินใจดำเนินการระงับการผลิต ทำให้การตีความหมายว่าใครเป็นผู้ตัดสินใจเรียกการเลิกผลิตอย่างเปิดเผย
5. อย่ายึดติดกับกฎเกณฑ์ในทุกสถานการณ์ นี่เป็นกรณีของการรู้จักผู้ชมของคุณ หากเป้าหมายของคุณคือการทำให้การเขียนของคุณเป็นบทสนทนาคุณควรจบประโยคด้วยคำบุพบทในตอนนี้โดยเฉพาะอย่างยิ่งเพื่อปรับปรุงการไหลและหลีกเลี่ยงการสร้างที่น่าอึดอัดใจ
6. อย่าใช้ภาพมากเกินไป โดยทั่วไปควรใช้ภาพอย่างน้อยที่สุดโดยไม่ควรเกิน 25% ของเอกสารบันทึกอีเมลรายงาน ฯลฯ กราฟิกมากเกินไปจะทำให้สับสนและมักเบี่ยงเบนไปจากข้อความที่คุณต้องการสื่อ กราฟิกที่ทรงพลังและมีการจัดวางอย่างดีเพียงไม่กี่ภาพจะช่วยให้คุณเข้าใจจุดที่ชัดเจนมากกว่า
ในการเขียนเชิงธุรกิจเป็นพื้นที่ที่ซับซ้อนและน่าตื่นเต้นอย่างมาก การเขียนเชิงธุรกิจต้องใช้ทักษะและความรู้จำนวนมากเพราะต้องความคิดในการเขียนแผนงานให้รัดกุมและสามารถดำเนินงานตามได้อย่างมีประสิทธิภาพและใชทักษะการนำเสนอในการโน้มน้าวให้ทุกคนเชื่อว่าการเขียนเชิงธุรกิจนี้สามารถเป็นไปได้ อ่านบทความที่น่าสนใจ ทอล์คธุรกิจ
