
วิธีโน้มน้าวจูงใจคนหรือการจูงใจคนตามหลักจิตวิทยา เป็นการทำความเข้าใจที่สามารถเพิ่มโอกาสที่เราจะจูงใจคนอื่นแค่เพียงจากคำพูดได้
เคล็ดลับการจูงใจคน
1. การเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน

วิธีการจูงใจนี้ปกติแล้วคนเราย่อมชอบคนที่นิสัยหรือโปรไฟล์เหมือนกัน เช่น ผู้สัมภาษณ์งานบางทีก็อาจจะเอนเอียงทางผู้สมัครที่จบมหาลัยเดียวกันโดยที่ไม่รู้ตัว การโน้มน้าวด้วยการเป็นอันหนึ่งอันเดียวกันนี้ เขาบอกว่าเริ่มต้นด้วยคำศัพท์เฉพาะกลุ่ม
2. อำนาจที่เป็นที่ยอมรับ

เพราะวิธีการจูงใจนี้ว่าคนเราย่อมเชื่อฟังผู้รู้ที่เป็นที่รู้จักในสังคม เช่น เราอาจจะได้ยินกันอยู่บ่อย ๆ ว่า “หัวหน้าบอกว่า….” งานวิจัยได้บอกไว้ว่าการที่เราทำให้ตัวเองเป็นผู้เชี่ยวชาญ สามารถทำให้เรานัดลูกค้าได้มากขึ้นถึง 20% แถมสามารถปิดการขายได้ถึง 15% ข้อดีเป็นการแนะนำที่เราพูดความจริง เพราะเราก็เป็นผู้เชี่ยวชาญ แถมไม่ได้มีต้นทุนอะไรมากเลยแค่เพิ่มมาอีกไม่กี่ประโยคเองในการแนะนำตัวเอง สำหรับคนที่บอกว่าต้องเรียนจบมหาลัยสูงหรือเปล่า เราต้องเก่งแค่ไหนถึงจะเป็นคนเชี่ยวชาญได้ สำหรับคนที่ทำงานมานานหน่อยก็ใช้ประสบการณ์ทำงานของตัวเองไปก็ได้ครับ เช่น ฉันทำฟรีเลนซ์มาแล้ว 10 ปี
3. การชอบพอ

วิธีการจูงใจนี้เป็นการหาจุดที่เหมือนกันและการสร้างเป้าหมายที่เหมือนกันระหว่างสองฝ่าย เป็นไปได้ยากที่จะปฏิเสธคนที่เราชอบหรือเคารพ เพราะเวลาเราโดนโน้มน้าวจากเซลล์ขายรถที่สวย ดูดี แนะนำสินค้าหรือบริการใหม่ให้ลองใช้เรา การตอบว่าได้มันออกมาได้ง่ายมากเลยทีเดียว
4. ความสม่ำเสมอ

วิธีการจูงใจนี้โดยส่วนมากของคนไม่ชอบทำอะไรที่ขัดแย้งกับสิ่งที่ตัวเองเคยพูดไว้หรือว่าเคยทำไว้ในอดีต วิธีที่ดีก็คือพยายามให้อีกฝ่ายถูกผูกมัดกับสิ่งเล็ก ๆ น้อย ๆ ก่อน แล้วหลังจากนั้นค่อยพยายามโน้มน้าวให้เขาทำอะไรที่ใหญ่มากขึ้น
5. การทำตามการยอมรับของสังคม

วิธีการจูงใจนี้ส่วนมากของคนนั้นไม่กล้าลองของใหม่ ดังนั้นนักการตลาดถึงได้ยอมควักเงินมากมายในการจ้างดาราที่เป็น หน้าตาของสังคมมาเพื่อโน้มน้าวให้เราซื้อสินค้า ธุรกิจออนไลน์ในเฟสบุ๊คก็ใช้แนวคิดแนวกันในการโพสต์ การรีวิวสินค้าจากทางบ้าน เพื่อให้ลูกค้าตัดสินใจง่ายขึ้น ดังนั้นเราจึงสามารถคิดได้ว่าขนาดคนอื่นยังใช้เลย เราซื้อมาใช้บ้างก็ไม่น่าจะมีปัญหานะ
6. การตอบแทนถ้อยทีถ้อยอาศัย

วิธีการจูงใจนี้เมื่อเราให้อะไรคนอื่นไปก่อน ทุกอย่างจะดูง่ายขึ้นที่ได้จะผลตอบแทนคืนมาให้ ตัวอย่างในโลกธุรกิจคือการแจกสินค้าตัวอย่างฟรีให้ลูกค้าลองใช้เพื่อเป็นการตลาดที่หวังจะให้ลูกค้ากลับมา สำหรับในต่างประเทศมีงานวิจัยว่าถ้าร้านอาหารให้ลูกอมลูกค้าเป็นของแถมตอนเรียกเก็บเงิน ลูกค้าส่วนมากจะให้ทิปมากขึ้นประมาณ 3% แต่ว่าถ้าให้ลูกอม 2 เม็ด ทิปสามารถเพิ่มมากขึ้นได้ถึง 14% ดังนั้นการโน้มน้าวด้วยการให้ที่ดีก็คือ การที่เราเป็นคนเริ่มต้นให้ก่อน ไม่ได้ขึ้นอยู่กับสิ่งที่เราให้ด้วยซ้ำ ส่วนมากขึ้นอยู่กับวิธีการให้ของเราว่าดูจริงใจหรือเปล่า และทำให้อีกฝ่ายหนึ่งประหลาดใจก็ยิ่งดี
7. การมีอยู่อย่างจำกัด

วิธีการจูงใจนี้ในภาษาการตลาด เช่น Limited Edition ลดราคาวันสุดท้าย สินค้ามีจำนวนจำกัด สิ่งนี้ย่อมกระตุ้นต่อมความอยากได้ของเราถึงแม้ว่าบางทีเราจะไม่ได้อยากได้มันจริง ๆ ก็ตาม ตัวอย่างคือร้านค้าร้านอาหาร เวลามีร้านที่เราชอบกินมาก ๆ ซึ่งกำลังจะปิดตัว สมมุติอารมณ์เจ้าของขี้เกียจทำแล้วหรือว่าเจ้าของอยากจะเกษียณ ถ้าไปลงข่าวโซเชียลทีไรวันต่อมาร้านค้านั้นจะระเบิดทันทีคนเข้าไปกินเยอะมาก เพราะคนจะรู้ว่าเขาไม่สามารถไปกินร้านค้านั้นได้อีกแล้ว
สำหรับคำว่าสินค้ามีจำนวนจำกัดเรียกว่าเป็นกำไรที่เฉพาะสถานการณ์แล้วมันทำซ้ำได้ เช่น ร้านเรามันจะมีของจำกัดบ่อยแค่ไหนเชียว ในมุมมองจิตวิทยาเขาก็เลยบอกว่ามันไม่พอนะที่เราจะแนะนำแค่ข้อดีของการกระทำนั้น ๆ ที่เราจะไปโน้มน้าวคน ในหลายครั้งแล้วก็ต้องอธิบายข้อเสียด้วย
เคล็ดลับวิธีการจูงใจคนนี้สามารถทำได้ในหลายสถานการณ์ ไม่ว่าจะในชีวิตส่วนตัวหรือในการทำธุรกิจ ครอบคลุมถึงการตลาด การขาย การบริหาร เป็นต้น บทความจาก ล็อตโต้สด888 เว็บแทงหวยและคาสิโนออนไลน์ที่ดีที่สุดของปี 2023
